294568_271310382980925_1038834074_n

ความสำคัญและความประเสิรฐของดุอาอ์บทนี้

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวไว้ว่า:
“ผู้ใดอ่านดุอาอ์ซัยยิดุลอิสติฆฟาร(แม่บทหรือผู้นำแห่งการกล่าวขออภัยโทษ)นี้ ในเวลากลางวัน (ช่วงเช้า) ด้วยความศรัทธาโดยมีความเชื่อมั่นต่อคำกล่าวนี้ แล้วเขาได้เสียชีวิตลงก่อนถึงเวลาเย็น เขาจะเป็นหนึ่งในบรรดาชาวสวรรค์ และผู้ใดอ่านดุอาอ์นี้ในเวลากลางคืน (ช่วงเย็น) ด้วยความศรัทธาโดยมีความเชื่อมั่นต่อคำกล่าวนี้ แล้วเขาได้เสียชีวิตลงก่อนถึงเวลาเช้า เขาจะเป็นหนึ่งในบรรดาชาวสวรรค์เช่นเดียวกัน”
<เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรีย์, เลขที่ 6306, อัน-นะสาอีย์, เลขที่ 5524, อบู ดาวูด, เลขที่ 5070, อัต-ติรมิซีย์, เลขที่ 3453>

ตัวบทดุอาอ์
คำอ่าน
” อัลลอฮุมมะอันตะร็อบบียฺ, ลาอิลาหะอิ้ลลาอันตะ เคาะลักตะนียฺ วะอะนะอับดุกะ วะอะนะอะลาอะฮฺดิกะ วะวะอฺดิกะมัสตะเฏาะตุ

อะอูซุบิกะ มินชัรริมา เศาะนะอฺตุ, อะบูอุละกะ บินิอฺมะติกะ อะลัยยะ, วะอะบูอุ บิซัมบียฺ, ฟัฆฟิรลียฺ, ฟะอินนะฮู ลายัฆฟิรุซซุนูบะ อิลลาอันตะ”

ความหมาย
“โอ้อัลลอฮฺ ! พระองค์ท่านเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระองค์ทรงบังเกิดข้าพระองค์ และข้าพระองค์เป็นบ่าวของพระองค์ และข้าพระองค์อยู่ภายใต้ข้อตกลงและคำมั่นสัญญาของพระองค์เท่าที่ข้าพระองค์ สามารถจะกระทำได้

ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้ายที่ข้าพระองค์ได้กระทำไว้ ข้าพระองค์ขอสารภาพต่อพระองค์ในความโปรดปรานของพระองค์ที่ได้มีต่อข้าพระองค์ และขอสารภาพในความผิดของข้าพระองค์ต่อพระองค์ ดังนั้นขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด เพราะแท้จริงไม่มีผู้ใดจะอภัยโทษในความผิดต่าง ๆ ให้แก่ข้าพระองค์ได้ นอกจากพระองค์ท่านเท่านั้น”

คำอธิบาย
ให้อ่านดุอาอ์นี้อย่างน้อยสองครั้งทุกวันในช่วงเช้าและเย็น ด้วยความอิคลาศ(บริสุทธิ์ใจ) โดยพยายามทำความเข้าใจและซึมซับกับความหมายให้ลึกซึ้งเพื่อจะได้เข้าถึงแก่นแท้ของนัยยะที่ยิ่งใหญ่อันซ่อนอยู่ในดุอาอ์นี้

ประโยคแรกของดุอาอ์ คือการยอมรับในความเป็นพระผู้อภิบาลของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่ การศรัทธาในเอกองค์อัลลอฮฺผู้ทรงอำนาจเหนือทุกสรรพสิ่งทั้งปวง เช่นนี้คือเงื่อนไขแห่งการตอบรับดุอาอ์ รวมทั้งกิจการและอามัลอื่นๆ ทั้งปวง การวิงวอนขอต่อพระเจ้าจะไม่เกิดผลใดๆ หากผู้ขอไม่ได้ศรัทธาและไม่ยอมรับในพระองค์ ความสำคัญของการศรัทธาต่ออัลลอฮฺจึงมาเป็นอันดับแรกก่อนสิ่งอื่นทั้งสิ้น

ประโยคต่อมาคือการน้อมรับโดยดุษฎีและยอมรับต่อบุญคุณอันล้นพ้นของอัลลอฮฺที่มีต่อตัวบ่าว เพราะพระองค์คือผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงให้กำเนิด
ผู้ให้ชีวิตและความสะดวกสบายต่างๆ นานาในโลกนี้ โดยกำหนดให้มวลมนุษย์ต้องทำหน้าที่ผู้เป็นบ่าวให้ดีที่สุดและไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีปัจจัยใช้ดำรงชีพ อย่างไรก็ตามแม้จะมีปัจจัยดำรงชีพ โอกาส และความสะดวกสบายมากมาย แต่ด้วยความอ่อนแอของมนุษย์ ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และความคิด มนุษย์จึงไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์ทั้งหมด หลายครั้งที่เขาหันเหจากเส้นทางที่ถูกต้อง หลายคราวที่ตกเป็นเหยื่อการล่อลวงของชัยฏอนและตัณหาให้ทำบาปและความผิดต่อองค์ผู้สร้าง ความผิดที่เกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์เหล่านี้ล้วนแล้วอาศัยความสะดวกสบาย
ที่อัลลอฮฺให้เขาทั้งสิ้น เป็นการใช้นิอฺมัตของอัลลอฮฺในทางที่พระองค์ไม่พอพระทัย เป็นความหลงลืมและไม่สำนึกต่อบุญคุณอันมหาศาลของอัลลอฮฺต่อเขา

ดังนั้น การที่จะลบล้างความผิดดังกล่าวจึงมีเพียงวิธีเดียว คือการกลับไปหาอัลลอฮฺด้วยหัวใจที่ยอมรับและสำนึกในความผิด
พร้อมทั้งวิงวอนอ้อนขอให้พระองค์ผู้ทรงเมตตาประทานอภัยโทษ

ทั้งนี้ ยังมีผู้ใดอีกเล่าที่อาจจะให้อภัยโทษแก่บ่าวผู้อ่อนแอได้ นอกจากอัลลอฮฺเพียงผู้เดียวเท่านั้น นี่คือสุดยอดแห่งการยอมรับในพระผู้อภิบาล และการน้อมรับในอำนาจแห่งพระองค์ ซึ่งไม่มีผลตอบแทนใดที่เหมาะสมยิ่งมากไปกว่าการได้รับรางวัลเป็นที่พำนักในสวรรค์อันนิรันดร์กาล
ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ระบุถึงความประเสริฐของดุอาอ์นี้ในหะดีษข้างต้น

ดุอาอ์ของนบี

ซัยยิดุลอิสติฆฟาร(ยอดแห่งการขออภัยโทษ)

รูปภาพ

ใส่ความเห็น